เตรียมรับมือ"วัยทอง"
วัยทอง
โดยเฉพาะตอนกลางคืน มักเป็นมากในช่วงวัยใกล้หมดระดู ส่วนใหญ่จะเป็นในช่วงแรกๆ ระยะเวลาที่เป็นแต่ละคนไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่อาการก็จะหายไปเอง อาการร้อนมักเริ่มที่หน้า คอ ศีรษะหรือหน้าอก หัวใจเต้นเร็วขึ้น ใจสั่น ผิวหนังร้อน หงุดหงิด อ่อนเพลีย อาจเกิดอาการปวดศีรษะร่วมด้วย
ผิวหนังจะเหี่ยวแห้ง เป็นขุย คัน และบางลงเกิดรอยช้ำได้ง่าย เล็บเปราะหักง่าย ผมร่วง เป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมนเอสโทรเจน และผลจากความชรา หรือกระบวนการเปลี่ยนตามวัย ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจน โดยอาจจะสูญเสียถึงร้อยละ 30 ในระยะ 10 ปีแรก นอกจากนั้นการเหี่ยวฝ่อของผิดวหนังยังทำให้การผลิตวิตามินดีที่ผิวหนังลดลงด้วย
พบภาวะซึมเศร้า กังวล หงุดหงิด กระวนกระวาย หลงลืม นอนไม่หลับ ซึ่งอาการเหล่านี้ซึ่งเป็นมากน้อยแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของแต่ละคน
การขาดเอสโทรเจน ทำให้เกิดการฝ่อ และการลดลงของเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ และท่อปัสสาวะ ทำให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศบางลง ปากช่องคลอดแคบ ช่องคลอดหดสั้นและแห้ง ซีด ผนังช่องคลอดบาง ซึ่งทำให้เกิดอาการ คัน ระคายเคือง แสบร้อนในช่องคลอด เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง การหย่อนตัวของกล้ามเนื้อทำให้กระบังลมหย่อน และมดลูดเคลื่อน กล้ามเนื้อหูรูดของท่อปัสสาวะอ่อนแอลง ทำให้ปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะเล็ด
2.โรคหัวใจและหลอดเลือด
การขาดฮอร์โมนเอสโทรเจน จะเพิ่มความเสื่องต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาพไขม้ันเลว(LDL) แต่ไขมันดี (HDL)ลดลง ทำให้ไขมันไปเกาะที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอด ทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตันทั้งหัวใจและสมอง ความเสื่ยงโรคนี้เพิ่มมากขึ้นตามอายุ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหาร สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอร์
3.โรคกระดูกพรุน
เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะสตรีวัยหมดระดู ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักง่าย โดยเฉพาะกระดูกสันหลังและสะโพก ในระยะ 5 ปีแรกหลังหมดระดู ร่างกายจะมีการสูญเสียมวลกระดูกอย่างรวดเร็วประมาณร้อยละ 20 ของมวลกระดูกทั้งหมด และสตรีอายุ 70 ปี จะสูญเสียมวลกระดูกไปประมาณร้อยละ 50
4 สารสกัด
5 สารสกัด
ดูแลฮอร์โมน ดี
4 สารสกัด
รับมือ"วัยทอง"