เตรียมรับมือ"วัยทอง"

สตรีทุกคนต้องเข้าสู่วัยทอง การเตรียมตัวรับมือก่อนเปลี่ยนช่วงอายุ เป็นสิ่งสำคัญ และต้องเรียนรู้อย่างเข้าใจ ซึ่งทำได้ง่ายๆ ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ งดสูบบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ กาแฟ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบทุกหมู่ เน้นทานอาหารไขมันต่ำ แคลเซี่ยมสูง โปรตีน และอาหารที่มีกากใยสูง
  • ออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุขภาพเป็นประจำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด
  • คู่สมรสควรพูดคุยอย่างเปิดเผย และทำความเข้าใจกับความเปลี่ยนแปลง



วัยทอง

ผู้หญิง "วัยทอง" คืออะไร?

สตรีวัยทอง หรือสตรีวัยหมดระดู คือสตรีที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และจิตใจมากที่สุด อันเนื่องมาจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิงโดยจะวินิจฉัยเมื่อขาดระดูคือ 50 ปี โดยสตรีร้อยละ 95 จะหมดระดูในช่วงอายุระหว่าง 45-55 ปี รวมถึงสตรีที่หมดระดูก่อนวัย เนื่องมาจากถูกผ่าตัดเอารังไข่ออกทั้งสองข้าง ก็จะมีผลต่างๆ เกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับสตรีที่หมดระดูตามธรรมชาติ

ปัญหาของวัยหมดระดู (วัยทอง)

  1. อาการที่สัมพันธ์กับวัยหมดระดู ได้แก่ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน นอนไม่หลับ หงุดหงิด อ่อนเพลีย ซึมเศร้า ปวดศรีษะ หลงลืม ปวดตามข้อ และกล้ามเนื้อ ใจสั่น ท้องผูก ปัสสะวะลำบาก และความรู้สึกทางเพศลดลง เป็นต้น อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในช่วงวัยใกล้หมดระดู และมีอาการมากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดระดูใน 2 ปีแรก
  • อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมาก

โดยเฉพาะตอนกลางคืน มักเป็นมากในช่วงวัยใกล้หมดระดู ส่วนใหญ่จะเป็นในช่วงแรกๆ ระยะเวลาที่เป็นแต่ละคนไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่อาการก็จะหายไปเอง อาการร้อนมักเริ่มที่หน้า คอ ศีรษะหรือหน้าอก หัวใจเต้นเร็วขึ้น ใจสั่น ผิวหนังร้อน หงุดหงิด อ่อนเพลีย อาจเกิดอาการปวดศีรษะร่วมด้วย

  • การเหี่ยวฝ่อของผิวหนัง

ผิวหนังจะเหี่ยวแห้ง เป็นขุย คัน และบางลงเกิดรอยช้ำได้ง่าย เล็บเปราะหักง่าย ผมร่วง เป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมนเอสโทรเจน และผลจากความชรา หรือกระบวนการเปลี่ยนตามวัย ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจน โดยอาจจะสูญเสียถึงร้อยละ 30 ในระยะ 10 ปีแรก นอกจากนั้นการเหี่ยวฝ่อของผิดวหนังยังทำให้การผลิตวิตามินดีที่ผิวหนังลดลงด้วย

  • อาการทางจิต

พบภาวะซึมเศร้า กังวล หงุดหงิด กระวนกระวาย หลงลืม นอนไม่หลับ ซึ่งอาการเหล่านี้ซึ่งเป็นมากน้อยแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของแต่ละคน

  • อาการเหี่ยวฝ่อของระบบปัสสาวะ และระบบสืบพันธ์

การขาดเอสโทรเจน ทำให้เกิดการฝ่อ และการลดลงของเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ และท่อปัสสาวะ ทำให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศบางลง ปากช่องคลอดแคบ ช่องคลอดหดสั้นและแห้ง ซีด ผนังช่องคลอดบาง ซึ่งทำให้เกิดอาการ คัน ระคายเคือง แสบร้อนในช่องคลอด เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง การหย่อนตัวของกล้ามเนื้อทำให้กระบังลมหย่อน และมดลูดเคลื่อน กล้ามเนื้อหูรูดของท่อปัสสาวะอ่อนแอลง ทำให้ปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะเล็ด

2.โรคหัวใจและหลอดเลือด

การขาดฮอร์โมนเอสโทรเจน จะเพิ่มความเสื่องต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาพไขม้ันเลว(LDL) แต่ไขมันดี (HDL)ลดลง ทำให้ไขมันไปเกาะที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอด ทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตันทั้งหัวใจและสมอง ความเสื่ยงโรคนี้เพิ่มมากขึ้นตามอายุ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหาร สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอร์

3.โรคกระดูกพรุน

เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะสตรีวัยหมดระดู ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักง่าย โดยเฉพาะกระดูกสันหลังและสะโพก ในระยะ 5 ปีแรกหลังหมดระดู ร่างกายจะมีการสูญเสียมวลกระดูกอย่างรวดเร็วประมาณร้อยละ 20 ของมวลกระดูกทั้งหมด และสตรีอายุ 70 ปี จะสูญเสียมวลกระดูกไปประมาณร้อยละ 50

AIRISA ไอริสา

รวมสารสกัดธรรมชาติ 13 ชนิด ปิดจบทุกปัญหาของผู้หญิง

  1. โปรตีนจากถั่วเหลือง
  2. สารสกัดจากตังกุย
  3. สารสกัดจากลูกซัด
  4. สารสกัดจากทับทิม
  5. สารสกัดจากโสมดำ
  6. สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส
  7. ผงบ๊วยญี่ปุ่น
  8. คลอลาเจนไตรเปป์ไทด์จากปลา
  9. แอล-กูลต้าไธโอน
  10. ยีสต์เบต้า กลูแคน
  11. Vitamin B
  12. Vitamin E
  13. Vitamin B3

4 สารสกัด

ดูแลผิวพรรณ ดี

เมื่อระดับเอสโตรเจนลดลงในช่วงวัยทอง จึงทำให้:

  • การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ผิวหนังเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ ทำให้ผิวเหี่ยวริ้วรอยมากขึ้น
  • ความชุ่มชื้นลดลง เอสโตรเจนช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว เมื่อฮอร์โมนนี้ลดลง ผิวจะเริ่มแห้งและบางลง
  • การหมุนเวียนเลือดที่ไปยังผิวพรรณลดลง ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่สดใส

สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส - ผงบ๊วยญี่ปุ่น

คอลลาเจนไตรเปปไทด์จากปลา -แอล-กูลต้าไธโอน

เมื่อใช้สารสกัดทั้ง 4 ชนิดร่วมกัน จะช่วยบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใส และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ลดการสร้างเม็ดสีผิวฝ้า กระ ความหมองคล้ำ ลดการอักเสบ เพิ่มความแข็งแรงของผิว

5 สารสกัด

ดูแลฮอร์โมน ดี

วัยทอง หรือภาวะหมดประจำเดือน ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้หญิงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

โปรตีนจากถั่วเหลือง: ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจน ลดอาการร้อนวูบวาบในผู้หญิงวัยทอง.

สารสกัดจากตังกุย: ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในผู้หญิง ลดอาการจากวัยหมดประจำเดือน เช่น ร้อนวูบวาบ.

สารสกัดจากลูกซัด: ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชายและลดอาการผิดปกติจากฮอร์โมนในผู้หญิง.

สารสกัดจากทับทิม: มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและเสริมสุขภาพหัวใจ.

สารสกัดจากโสมดำ: ปรับสมดุลฮอร์โมน ลดอาการเครียด เพิ่มพลังงาน และช่วยบรรเทาอาการวัยทอง.

4 สารสกัด

ภูมิคุ้มกัน ดี

ทำไมวัยทองถึงทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง

วัยทอง หรือภาวะหมดประจำเดือน ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้หญิงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

ยีสต์เบต้า กลูแคน: กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยเสริมเกราะป้องกันเชื้อโรค และลดการอักเสบในร่างกาย

Vitamin B (รวม): สนับสนุนการทำงานของระบบประสาท ลดความเครียด และช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงที่แข็งแรง ซึ่งส่งผลดีต่อภูมิคุ้มกัน

Vitamin E: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ และเสริมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน

Vitamin B3 (ไนอะซิน): ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บำรุงผิวหนัง และเสริมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ

รับมือ"วัยทอง"

อย่างมั่นใจ

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยรักษาความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อย.

ทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่ช่วยเสริมฮอร์โมน เช่น ถั่วเหลือง, ผลไม้, ผักใบเขียว, และอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม.

การจัดการกับความเครียด: หาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ, โยคะ, หรือการหายใจลึกๆ.

การนอนหลับเพียงพอ: ช่วยฟื้นฟูร่างกายและปรับสมดุลฮอร์โมน.

ทานอาหารเสริม ที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน มีสารสกัดที่มีประโยชน์ ปลอดภัย น่าเชื่อถือ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy